นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี 2554 ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการพัฒนาส้วมสาธารณะของประเทศให้ได้มาตรฐาน HAS คือ สะอาด (Health) เพียงพอ (Accessibility) และปลอดภัย (safety) มาตั้งแต่ปี 2548 ทำให้ขณะนี้ มีส้วมสาธารณะผ่านเกณฑ์มาตรฐาน HAS เฉลี่ยร้อยละ 55.47 และเพื่อให้การพัฒนาส้วมสาธารณะเกิดความยั่งยืน กระทรวงสาธารณสุขได้กระตุ้นให้เจ้าของส้วมสาธารณะตระหนักในการพัฒนา การบำรุงรักษาส้วมให้สะอาด เพียงพอ ปลอดภัยแก่ผู้ใช้ตลอดเวลา จึงได้จัดให้มีการคัดสรรสุดยอดส้วมแห่งปีขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 7 (2548-2554) โดยมีสถานที่ที่ได้เป็นสุดยอดส้วมแห่งปี 2554 จำนวน 22 แห่ง ส่งผลให้ประเทศไทยมีต้นแบบปฏิบัติที่ดีในการจัดการส้วมสาธารณะรวมแล้ว 159 แห่ง
รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า การขับเคลื่อนส้วมสาธารณะให้บรรลุเป้าหมายนั้น กระทรวงสาธารณสุข ยังต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาและปรับปรุงส้วมสาธารณะ ให้ได้มาตรฐาน HAS ในทุกกลุ่มเป้าหมายทั้ง 12 ประเภท ได้แก่ สถานศึกษา สถานที่ราชการ โรงพยาบาลศาสนสถาน ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า แหล่งท่องเที่ยว สวนสาธารณะ สถานีขนส่งทางบกและทางอากาศ ตลาดสด ร้านจำหน่ายอาหาร สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง และส้วมสาธารณะริมทาง โดยขับเคลื่อนให้มาตรฐานส้วมสาธารณะเป็นกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านมติความเห็นชอบอนุมัติจากการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 15/2555 เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อกฎกระทรวงกำหนดส้วมที่ต้องด้วยสุขลักษณะ ในร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม และสถานีบริการการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง หรือก๊าซสำหรับยานพาหนะ จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 30 วัน นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว สำหรับกิจการที่มีอยู่ก่อนกฎกระทรวงนี้ ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎกระทรวงภายใน 1 ปี นับตังแต่วันที่มีผลบังคับใช้
ด้าน ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การออกกฎหมายบังคับใช้สำหรับส้วมสาธารณะ 2 ประเภทก่อนคือ ส้วมร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม และส้วมสถานีบริการการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง หรือก๊าซสำหรับยานพาหนะนั้น สอดคล้องกับผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน 1,000 คน ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมื่อปี 2553 โดยพบว่าปัจจัยในการตัดสินใจเลือกส้วมสาธารณะที่จะไปใช้บริการคือ ความสะอาดของส้วมสูงถึงร้อยละ 86.3 ตรงกับความต้องการของประชาชนที่ต้องการให้ปรับปรุงส้วมสาธารณะ เรื่องกลิ่นเหม็น และความสะอาดมากที่สุดร้อยละ 76.5 และปั๊มน้ำมันเป็นสถานที่ที่ต้องการให้ปรับปรุงมากที่สุด
“ทั้งนี้ สำหรับ 22 หน่วยงานที่ได้รับรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี 2554 ได้แก่ โรงเรียนบางจาก โรงเรียนปิยะบุตร์ โรงเรียนทวารวดี วิทยาลัยสารพัดช่างพระนครศรีอยุธยา วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ วัดสระแก้ว วัดมกุฎกษัตริยาราม โรงพยาบาลอุทัย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านไผ่ขวาง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านควนผาสุก ตลาดสดเทศบาลเมืองกระนวน ห้างหุ้นส่วนจำกัดคำเขื่อนแก้วปิโตรเลียม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สถานีรถไฟนาชะอัง สถานีรถไฟนครสวรรค์ ร้านอาหารปราสาททอง ร้านอาหารสวนริมเขา ร้านอาหารบ้านไร่คาวบอย สวนหลวง ร.9 อาคารถกลพระเกียรติ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองหลวง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอคอนสาร และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชุมพร” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น