เตือนอันตรายผักห้างดัง หลังตรวจพบเมโทมิล-คาร์โบฟูราน ‘ยาฆ่าแมลงพิษร้ายต่อระบบประสาท’ เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai - PAN) แฉบริษัทยักษ์ผู้ผลิตและนำเข้าเมโทมิล ชักใยการเร่งผลักดันขึ้นทะเบียนเมโทมิล สารเคมีเกษตรอันตรายหลายประเทศเลิกใช้แล้ว ...
วันที่ 13 ก.ค. น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค รายงานผลตรวจผักยอดฮิตในครัวเรือนไทย 7 ชนิด ได้แก่ กะหล่ำปลี คะน้า ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว ผักบุ้งจีน ผักชี และ พริกจินดา จากห้างสรรพสินค้าชื่อดังหลายแห่ง ทั้งชนิดที่เป็น House brand และตรารับรอง Q เจอสารเคมีอันตรายหลายชนิด เฉพาะอย่างยิ่งคาร์โบฟูราน และเมโทมิล ซึ่งเป็นสารเคมีเกษตรตัวที่เครือข่ายเกษตรทางเลือกเสนอให้ระงับการขึ้นทะเบียน ทั้งนี้แม้ไม่เกินค่ามาตรฐานประเทศไทย แต่ก็เกินค่ามาตรฐานยุโรป โดยผลการตรวจพบในถั่วฝักยาว ผักชี ผักคะน้า จากหลายห้างดัง ซึ่งผลการตรวจนี้สะท้อนมาตรฐานการคุ้มครองสุขภาพคนไทยที่ต่ำกว่ายุโรปนอกจาก นี้ทั้งเมโทมิล และคาร์โบฟูราน ก็เป็นสารเคมีเกษตรที่ตรวจพบตกค้างเกินค่ามาตรฐานในผักที่ส่งไปยุโรปบ่อยครั้งที่สุด พร้อมเสนอว่าประเทศไทยควรปรับมาตรฐานการตกค้างของสารเคมีเกษตรให้เป็นมาตรฐานเดียวกับยุโรป
ด้านนายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี ระบุผู้ผลิตและนำเข้าเมโทมิลในบริษัทแห่งหนึ่ง อยู่เบื้องหลังการแถลงของสมาคมชาวสวนมะม่วงที่ออกมาผลักดันการขึ้นทะเบียนเมโทมิล พร้อมเตือนให้สังคมไทยต้องร่วมกันจับตาข้าราชการระดับสูงของ กระทรวงเกษตรฯบางคน ที่ขณะนี้ทำหน้าที่ในการปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทสารเคมียิ่งกว่าประโยชน์และความปลอดภัยของเกษตรกร และผู้บริโภคที่ได้รับพิษภัยจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช นอกจากนี้ ข้ออ้างเรื่องหากไม่อนุญาตให้ขึ้นทะเบียนเมโทมิลแล้ว จะทำให้ส่งผลกระทบต่อตลาดส่งออกมะม่วงของไทยไปยังญี่ปุ่นนั้น เป็นการสร้างภาพเกินจริง โดยเอาเกษตรกรบางคนมาเป็นข้ออ้าง ทั้งๆ ที่มีสารตัวอื่นทดแทนได้ ทั้งเคมีและอินทรีย์ ทั้งนี้หลายประเทศก็มีการห้ามใช้ และไม่อนุญาตให้มีการขึ้นทะเบียน โดยในกลุ่มประเทศอาเซียนมีสิงคโปร์ มาเลเซีย และกัมพูชา และการที่บริษัทและเกษตรกรบางรายอ้างว่าเมโทมิลมีราคาแพงขึ้นสองเท่านั้น
มีข้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้มีการนำเข้าเมโทมิลระหว่างเดือนมกราคม-สิงหาคม 2554 มากกว่า 2.4 ล้านกิโลกรัม ซึ่งมากกว่าปี 2553 ทั้งปีซึ่งนำเข้าเพียง 1.5 ล้านกิโลกรัมเสียอีก โดยเบื้องหลังของเรื่องนี้น่าจะเป็นกลยุทธ์ทางการค้าของบริษัทมากกว่า ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ทั้งกรมวิชาการเกษตร และรัฐบาลให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภคเหนือผลประโยชน์ของบริษัท และยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคภายในประเทศในระดับที่ทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ เช่น กลุ่มยุโรป ทางเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช จึงเรียกร้องให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีประกาศห้ามใช้ และไม่อนุญาตให้มีการขึ้นทะเบียน เมโทมิล คาร์โบฟูราน ไดโครโตฟอส และอีพีเอ็น โดยทันที เพื่อปกป้องสุขภาพของเกษตรกรผู้บริโภค และรักษาตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของไทย.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น