กรมป่าไม้ ยันแผนป้องกันน้ำท่วมคืบหน้า ปลูกหญ้าแฝก 20 ล้านกล้า การเพาะชำกล้าไม้ 82.6 ล้านกล้า และสร้างฝาย จำนวน 2,810 ฝาย ใน 8 ลุ่มน้ำ คาดเสร็จ ก.ค.นี้
เมื่อวันที่ 9 ก.ค. นายสุวิทย์ รัตนมณี อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลงความคืบหน้าในการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ ตามนโยบายรัฐบาลเพื่อป้องกันน้ำท่วมว่า กรมป่าไม้ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ดำเนินการอนุรักษ์ป่าและดิน การปลูกหญ้าแฝกในพื้นที่วิกฤติ และการก่อสร้างฝายทั้งกึ่งถาวรและถาวร โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี คือตั้งแต่ปี 2555-2559 โดยกรมป่าไม้ได้เลือกพื้นที่เป้าหมายที่ต้องเร่งฟื้นฟูใน 8 ลุ่มน้ำ ได้แก่ ลุ่มน้ำปิง วัง ยม น่าน ป่าสัก สะแกกรัง เจ้าพระยาและท่าจีน รวมพื้นที่ทั้งหมด 100.16 ล้านไร่ มีพื้นที่คงสภาพป่า 42.46 ล้านไร่ และพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม รวม 8.46 ล้านไร่ ประกอบด้วยป่าเสื่อมโทรมที่สามารถฟื้นตัวได้เองตามธรรมชาติเป็นพื้นที่ขนาดน้อยกว่า 100 ไร่ มีไม้ขึ้นในพื้นที่ ต้องป้องกันดูแลรักษาพื้นที่โดยการมีส่วนร่วมตามแนวพระราชดำริ เป็นพื้นที่ 2.69 ล้านไร่ ในส่วนพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมที่ต้องปลูกฟื้นฟู เป็นพื้นที่ขนาด 100 ไร่ขึ้นไป สามารถฟื้นตัวได้เองตามธรรมชาติ ต้องมีการปลูกฟื้นฟูเป็นพื้นที่ 5.77 ล้านไร่ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 1.80 ล้านไร่ มีวิธีการดำเนินงาน 2 รูปแบบ รูปแบบแรกวิธีปลูกฟื้นฟูป่าและระบบนิเวศน์ 1.33 ล้านไร่ รูปแบบที่สอง วิธีรณรงค์ส่งเสริมราษฎร์ เอกชน หน่วยงานราชการอื่นๆ ปลูกต้นไม้ 0.47 ล้านไร่
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า ส่วนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 3.97 ล้านไร่ มีวิธีดำเนินงาน 3 รูปแบบ รูปแบบแรกวิธีปลูกฟื้นฟูระบบนิเวศน์โดยชุมชนท้องถิ่น 0.48 ล้านไร่ รูปแบบที่สองวิธีส่งเสริมปลูกป่าชุมชน 0.12 ล้านไร่ และวิธีรณรงค์ส่งเสริมราษฎร์ เอกชน หน่วยงานราชการอื่น ปลูกต้นไม้ 3.37 ล้านไร่ สำหรับในส่วนของต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ กรมฯ ดำเนินการปลูกหญ้าแฝก จำนวน 20 ล้านกล้า การเพาะชำกล้าไม้ จำนวน 82.6 ล้านกล้า และการก่อสร้างฝายจำนวน 2,810 ฝาย เป็นฝายกึ่งถาวร 2,200 ฝาย และฝายถาวร 610 ฝาย คาดว่าจะเสร็จภายในเดือน ก.ค.นี้
นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า การฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ กรมฯ ได้น้อมนำแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มาเป็นกรอบแนวทาง ได้แก่ 1.การปลูกป่าในใจคน โดยใช้หลักการอนุรักษ์ สงวน คุ้มครองและปล่อยให้ป่าเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นป่าสมบูรณ์โดยไม่ต้องปลูก 2.การปลูกป่าและการปลูกป่าทดแทนในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมและจำเป็นต้องฟื้นฟูอย่างเร่งด่วนด้วยแนวคิดการปลูกป่าไม้ 3 อย่าง ได้ประโยชน์ 4 อย่าง คือ การปลูกไม้ที่ใช้ประโยชน์ในการก่อสร้าง เป็นไม้ฟืนและถ่านเพื่อให้พลังงาน รวมถึงประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม 3.ป่าเปียก หรือการฟื้นฟูป่าโดยใช้ความชุ่มชื้น และ 4.การปลูกหญ้าแฝกตามแนวขวางความลาดชันและร่องน้ำบนภูเขาเพื่อลดความรุนแรงในการไหลของน้ำ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น