อช.ปัดฝุ่นโครงการ “กระเช้าขึ้นภูกระดึง” ชงคณะรัฐมนตรี ทุ่มงบ 20 ล้านบาทเดินหน้ารื้ออีไอเอใหม่ ด้าน "ปรีชา" มอบองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ดำเนินการศึกษาถึงความเหมาะสม และความเป็นไปได้...
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. นายเริงชัย ประยูรเวช รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานกรรมการเพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง จ.เลย มีความคืบหน้าและชัดเจนไปมาก โดยล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบประมาณในการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) การจัดสร้างโครงการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง จำนวน 20 ล้านบาท ให้กับกรมอุทยานแห่งชาติฯ แล้ว
รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวต่อว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานฯ ได้ลงนามในหนังสือถึงนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เพื่อให้นายปรีชาลงนามคำสั่งให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ที่ ครม.มอบหมายให้ศึกษาความเป็นไปได้และความเหมาะสมในการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงร่วมกับกรมอุทยานฯ ดำเนินการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงขึ้นมาใหม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้กรมอุทยานฯ ได้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการดำเนินการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงขึ้นมาแล้วชุดหนึ่ง และได้มีการประชุมคณะทำงานดังกล่าว โดยมีผู้แทนระดับจังหวัดร่วมด้วย แต่ที่ประชุมมีมติเห็นว่าควรมอบให้ อพท.เป็นฝ่ายดำเนินการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโครงการกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง เนื่องจากความเหมาะสมในหลายๆ ด้าน
นายเริงชัย กล่าวต่อว่า กรมอุทยานฯ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่พร้อมอำนวยความสะดวกให้ อพท.อย่างเต็มที่ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวต่อว่า สำหรับขั้นตอนการดำเนินการต่อจากนี้ อพท.จะไปประสานการทำงานกับสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อดำเนินการในเรื่องการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโครงการกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงต่อไป ทั้งในเรื่องบริษัทที่ปรึกษาที่จะเข้ามาดำเนินการและกรอบระยะเวลาในการศึกษา เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการพิจารณาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างกระเช้าฯ ได้เห็นชอบจุดที่จะมีการก่อสร้างกระเช้าคือจุดบ้านศรีฐาน-หลังแป ซึ่งเป็น 1 ใน 2 จุด ที่เคยมีการศึกษาเป็นทางเลือกเอาไว้ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของทางขึ้น-ลงปัจจุบัน เพราะเป็นจุดที่เป็นเส้นทางที่สั้นที่สุด ใช้ผืนป่าน้อยที่สุด และไม่พบพันธุ์ไม้หายากหรือใกล้สูญพันธุ์ หากมีการสร้างกระเช้าจะใช้ระยะความยาวของเคเบิลประมาณ 3,819 เมตร จุดลงเสาโครงสร้างกระเช้าจะใช้พื้นที่ป่า 3.66 ไร่ และ 4.03 ไร่ เป็นต้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากผลการศึกษาทางเลือกดังกล่าวดำเนินการมานานกว่า 10 ปี ข้อมูลจึงล้าสมัย ไม่เป็นปัจจุบัน ดังนั้นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ จึงขอให้ อพท.ดำเนินการศึกษาทางเลือกในการก่อสร้างกระเช้าและอีไอเอใหม่ทั้งหมด.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น