ผศ.ดร.จิตราภา กุณฑลบุตร เลขานุการที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ทปอ.มรภ.) เปิดเผยผลการวิจัยเรื่องความต้องการดำรงสถานภาพในสถาบันอุดมศึกษากลุ่มใหม่ของพนักงานมหาวิทยาลัย ซึ่งจัดทำโดยคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเกี่ยวกับการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษากลุ่มใหม่ โดยนำเสนอในเวทีเสวนาวิชาการเรื่อง “การระดมความคิดเพื่อหาแนวปฏิบัติที่เป็นธรรมต่อพนักงานมหาวิทยาลัย” ตอนหนึ่งว่า งานวิจัยทำการสำรวจมหาวิทยาลัยกลุ่มใหม่ 52 แห่ง เพื่อสำรวจความต้องการการดำรงสถานภาพของบุคลากร จำนวน 4,956 คน พบว่าส่วนใหญ่ 73.57% ต้องการเป็นข้าราชการ โดยสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ต้องการเป็นข้าราชการมากถึง 96.30%, ม.นครพนม 82.14%, กลุ่ม มรภ.76.32%, กลุ่ม ม.เทคโนโลยีราชมงคล 65.10% สำหรับตัวแปรที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือก สถานภาพ คือ สมรส จำนวนบุตรมาก คุณวุฒิสูง อายุงานมาก ยิ่งต้องการเป็นข้าราชการมากกว่าคนโสด คนไม่มีบุตร หรือผู้เริ่มงานใหม่ ที่สำคัญพบว่าความเสมอภาพและความเป็นธรรม ความมั่นคงในอาชีพและศักดิ์ศรีของผู้ปฏิบัติงานนั้น พนักงานมหาวิทยาลัยได้รับการปฏิบัติจากรัฐบาล สังคม แตกต่างจากการเป็นข้าราชการ
เลขานุการ ทปอ.มรภ. กล่าวต่อว่า สำหรับข้อเสนอแนะที่ได้จากการสัมภาษณ์เจาะลึกบุคลากร พบว่าบุคลากรส่วนใหญ่เห็นว่าหากต้องเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ก็ขอให้ได้รับศักดิ์ศรีความสำคัญของการเป็นครูเทียบเท่ากับข้าราชการเดิม ทั้งสิทธิประโยชน์ควรเสมอภาคกับข้าราชการเดิมและเสมอภาคกับพนักงานมหาวิทยาลัยทุกแห่ง แม้จะต้องทำงานเสริมก็ควรเป็นงานที่ใช้ภูมิปัญญา และข้อเสนอต่อรัฐบาลคือ รัฐควรจัดสรรงบฯเป็นกรณีพิเศษเร่งด่วนให้สถาบันอุดมศึกษากลุ่มใหม่ ในช่วง 5-10 ปี ขณะที่ ม.ใหม่ ต้องจัดทำแผนพัฒนาที่ชัดเจน มีหน่วยงานกลางติดตามประเมินผลแนะนำแก้ไขเป็นระยะ ทั้งนี้งานวิจัยดังกล่าวจะมีการนำเข้า ทปอ.มรภ.ในปลายเดือน ก.ค.นี้.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น